โดยทั่วไป ร่างกายของเราได้รับวิตามินดี (Vitamin D) จาก 2 แหล่งคือ จากการรับประทานอาหารและจากการสังเคระห์ทางผิวหนังของเราโดยอาศัยรังสี Ultraviolet B (UVB) จากแสงแดด ซึ่งในบทความนี้เราจะมาทำความเข้าใจเพิ่มเติมเรื่องตัวของแสงแดดที่มีผลต่อการสร้างวิตามินดี
วิตามินดีที่ได้จากแสงอาทิตย์จะสามารถคงอยู่ในร่างกายของเราได้นานกว่าวิตามินที่ได้จากการรับประทานอาหารถึง 2-3 เท่าและจะไม่ทำให้เกิดภาวะพิษจากการมีวิตามินดีสูง เนื่องจากการสังเคราะห์ทางผิวหนังมีระบบป้องกันระดับวิตามินดีสูงโดยการสลายวิตามินดีส่วนเกินให้เป็นวิตามินดีที่รูปแบบไม่ทำงาน (inactive form) โดยในกระบวนการสังเคราะห์วิตามินดีทางผิวหนังนั้น ต้องอาศัยหลายปัจจัย ได้แก่
§ การทำมุมของแสงอาทิตย์ต่อแกนแนวตั้งของโลกที่เหมาะสมซึ่งเรียกว่า zenith angle ถ้ามุม zenith เพิ่มขึ้นรังสี UVB จะตกกระทบต่อพื้นผิวโลกลดลงซึ่งส่งผลทำให้สังเคราะห์วิตามินดีได้น้อยลง โดยมุม zenith จะเพิ่มขึ้นเมื่ออยู่ในละติจูดสูงขึ้นและตรงกับช่วงเช้าหรือช่วงบ่ายแก่ๆ ดังนั้น วิตามินดีจะถูกสังเคราะห์ได้ดีที่สุดเมื่ออยู่ภูมิประเทศที่ใกล้เส้นศูนย์สูตรและอยู่ในช่วงเวลา 10.00-15.00 น. ของวัน กล่าวสั้นๆก็คือ ช่วงเวลาที่ร่างกายจะได้รับวิตามินดีจากการสังเคราะห์จากแสงแดดที่ให้ประสิทธภาพสูงที่สุดคือ 10.00-15.00 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คนส่วนใหญ่ใช้ชีวิตอยู่ในร่ม
§ คลื่น UVB ที่ความยาวคลื่นแสง 290-315 nm ระยะเวลาที่โดนคลื่น UVB ควรได้รับปริมาณแสง UVB ในระดับไม่เกิน 1 MED (Minimal Erythema Dose) เพื่อให้ประสิทธิภาพสูงสุดในการสัเคราะห์วิตามินดีโดย 1 MED คือระยะเวลารับแสง UVB ที่ทำให้ผิวมีสีแดงต่อเนื่อง 24 ชั่วโมงหลังจากได้รับ UVB ซึ่งระยะเวลานั้นจะแตกต่างกันตามลักษณะผิว
§ นอกจากนั้นปัจจัยที่มีผลต่อการได้รับคลื่น UVB ได้แก่
§ ฝุ่นละอองหรือมลพิษที่หนาแน่นในอากาศในฤดูหนาว
§ การทาครีมกันแดดที่ผิวหนัง
§ การถูกกั้นด้วยกระจกหรือพลาสติก เป็นต้น
ทำให้แสง UVB กระทบผิวหนังลดลงส่งผลต่อประสิทธิภาพการสังเคราะห์วิตามินดีที่ลดลงเช่นกัน
§ ปริมาณเม็ดสีเมลานินใต้ผิวหนัง หากมีปริมาณเม็ดสีเมลานินมากจะทำให้ประสิทธิภาพการสังเคราะห์วิตามินดีลดลง โดยพบว่าคนผิวขาวจะสามารถเพิ่มระดับวิตามินดีในเลือดจากการสังเคราะห์ทางผิวหนังได้มากกว่าคนผิวดำถึง 30 เท่า
§ อายุที่สูงขึ้นพบว่ามีปริมาณคอเลสเตอรอลในชั้นผิวหนัง (7-dehydrocholesterol) ลดลง ดังนั้นผู้สูงอายุจึงมีความเสี่ยงที่จะขาดวิตามินดีเพิ่มขึ้นได้โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่โดนแสงแดดน้อย
เรียบเรียงโดย Trivita Health โดยดัดแปลงมาจากบาทความในวารสารโภชนบำบัดเรื่อง วิตามินดีกับสุขภาพ, แพทย์หญิงวีรนุช โรจน์ยินดีเลิศ, หน่วยโภชนศาสตร์คลีนิก กองอายุรกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า (http://www.spent.or.th)